วันที่ 30 อ.เมือง จ.ประจวบ ถึง อ.หัวหิน จ.ประจวบ
3 วันแล้ว ก็ยังอยู่จังหวัดเดิม ไม่พ้นสักที 555
วันนี้มีนัดกับรถตู้ให้แวะมาเอาจักรยานที่บ้านคริสและพี่เก๋ แลกกับแม่ทำข้าวผัดที่เราชอบมาให้ และพ่อส่งแทปเลตมาให้ใช้เป็นค่าเช่ารถจักรยานของเรา พอเห็นอาหารแล้วท้องก็ร้อง คิดถึงกับข้าวฝีมือแม่มากกกกกกก น้าจุ๋มคนข้างบ้านฝากพายบลูเบอรรี่ และคุ้กกี้ทำเองมาให้ทานเป็นของหวาน ขอบคุณทั้งสองคนมากคับ อร่อยมาก กินไปก็ยิ้มไป ของเอาอร่อยจริงๆ ส่วนแทพเลตจากปะป๊า ก็ใช้งานดีมาก จะมีปัญหาก็เรื่องรูปนิดหน่อย เพราะรูปส่วนใหญ่ถ่ายจากกล้อง ซึ่งให้ภาพทีคมชัดกว่า แต่ก็ต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการอัพโหลดภาพ ซึ่งก็ยังหาวิธีไม่ได้ จะใหหิ้วสองเครื่องก็จะยังไงอยู่
เส้นทางที่ปั่นจาก อ.เมืองมาหัวหิน ก็จะผ่านอุทยานสามร้อยยอด ใครผ่านมาเส้นนี้อยากจะปีนเขานิดหน่อยก็ขอเชิญซื้อตั๋วที่ทางเข้า ที่นี่มีถ้ำพระยานคร หนึ่งใน unseen thailand ที่ในถ้ำมีพลับพลาของรัชกาลที่ 5 อยู่ สวยมาก ปีนขึ้นเขาประมาณ 450 กว่าเมตร ไม่แนำให้ไปหน้าฝนเพราะทางเดินอาจลื่นได้ ใครเป็นโรคข้อหรือโรคหัวใจก็ไม่แนะนำเช่นกัน แต่ถ้าร่างกายฟิตก็ขอเรัยนเชิญเลยคะ สามารถเดินข้าม้ขาลูกแรกไปก่อนระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร หรือไม่ก็นั่งเรือชาวบ้านข้ามไป ลำละ 300 บาท นั่งได้ประมาณ 6-7 คน
ระหว่างที่ปั่น เส้นที่ไม่ค่อยมีรถก็เห็น นกนอนหงายท้องอยู่หนึ่งตัว ขาชี้ฟ้าเลย แล้วนกอีกตัว(พันธ์ุเดียวกัน)ก็บินโฉบลงมาที่นกตัวที่นอนหงายอยู่ เราก็บอก โห…มันคงเศร้าเนอะที่เพื่อนมันตายอะ พอลบอก เออ…น่าสงสารอะ สงสัยตกลงมาตาย ที่ไหนได้ปั่นเข้าไปใกล้ขึ้น มันเด้งดึ๋งขึ้นมาบินออกไปเฉย ซะงั้นอะ นกมันมีแกล้งตายด้วยอะ อย่างฮา เกิดมาไม่เคยเห็นนกแกล้งตายมาก่อนใครเคยเห็นบ้างมาเล่าให้ฟังหน่อย
.
.
.
.
ข้อความข้างล่างนี้ไม่ต้องอ่านก็ได้นะคะ เพราะอาจมีคำหยาบคายปะปนอยู่ เป็นการบ่นเรื่องรถทัวร์ที่นั่งมาสุรินทร์
เย็นนี้ต้องนั่งรถทัวร์จากหัััวหินเพื่อที่จะไปลงที่จังหวัดสุรินทร์ สำหรับงานแต่งงานพี่เก๋และคริส เราก็เลือกที่จะนั่งรถทัวร์สีส้ม ของบริษัท ทีพีชนะภัยทัวร หรือรถทัวร์สีส้ม ราคา 582 บาท รถออกตอน หกโมงเย็น ก็จะบอกว่าจากที่นั่งมา 9 ชั่วโมงเป็นอะไรที่ทรมานมาก ขอสาปส่งรถบริษัทนี้เลย ตอนแรกคุณเปิดทีวี เราก็พอเข้าใจ เห็นเปิดทุกบริษัท ระหว่างดูทีวีที่เสียงดังมาก เหมือนผู้โดยสารหูหนวก คนขับรถกับเด็กรถก็คุยกันไม่เลิก คุยแบบเสียงดังมาก ทั้งพอลและแน็ตก็จัดการเอาที่อุดหูขึ้นมาอุด ก็จะบอกว่ายังได้ยินเสียงทีวี และบทสนทนาของคนขับแบบชัดเจนมาก สองทุ่มแล้วหนังจบแล้ว พวกมันก็ยังคุยกันไม่เลิก เสียงก็ไม่ได้เบาลง หัวเราะกันใหญ่ สักพักมันก็เปิดเพลงฟัง เหมือนทั้งรถต้องการจะฟังด้วย ไม่ใช่เบาๆเลยนะ ดังพอๆกับทีวีเลย ขับไปฟังเพลงไป คุยกันไป คุยโทรศัพท์ด้วย คิดว่าเสียงเพลงคงดังเกินไปเพราะแม่งต้องตะโกนคุยโทรศัพท์ เด็กรถอีกคนนั่งอยู่เบาะหลังเรา ก็คุยโทรศัพท์แทงบอล แล้วก็คุยแบบตะโกนคุยเพราะเพลงดัง ห่าลากเฮอะ ไม่มีจิตสำนึกของคนเลยใช่มั้ยเนียะ เราก็บอกแล้วนะว่าช่วยเบาเสียงหน่อยได้มั้ย พอลก็ตะโกนด่าก็แล้ว แต่ก็ไม่มีอะๆรเปลี้ยนแปลง คิดว่าคงเป็นเพราะผู้โดยสารที่เหลือนั่งเงียบไม่บ่นอะไร มีแต่ทำปากเบ้ บ่นงุบงิบตามนิสัยคนไทย โกรธที่สุดคือ ตีสองแม่งเปิดทีวีดูบอล นึกสภาพไฟมืดๆทั้งคัน คนกำลังนอน แล้วก็มีไฟทีวีสว่างจ้า พร้อมทั้งเสียงนกหวีดจากทีวี โหแม่งเหี้ยมแบบไม่มีม.ม้าเลย พวกชั้นจ่ายเงินขึ้นรถนะ ไม่ได้ขึ้นฟรี แม่งทำอย่างกับไปขอมันติดรถมาด้วย ใครรู้ว่าให้ไปร้องเรียนเรื่องพวกนี้ที่ไหนก็ช่วยบอกด้วยนะคะ