วันที่ 34 อ.เมือง จ.ราชบุรี ถึง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

ใกล้มีเลข 2 นำหน้าหละ จังหวัดที่ 19 แล้วจ้า

เช้านี้มีพี่นิสิต และพี่สุนีปั่นแทนดัมมารับที่โรงแรม เพื่อที่จะปั่นเป็นเพื่อนไปจนถึง อ.บ้านโป่ง ขอยคุณมากคะ รวมไปถึงพี่ๆอีก 3 คน (จำชื่อไม่ได้อะ) ที่มารับจากโรงแรม ไปส่งถึงตลาดสด 555

เป็นครั้งแรกที่เห็นคนไทยขี่แทนดัมนะ เอ๊ย ไม่ดิ ครั้งที่ 2 ครั้งแรกเป็นคู่สามีภรรยา ขี่แทนดัมเที่ยว แล้วก็มีน้องแกะใส่ตัวลากตามไปด้วย คิดว่าใครเคยได้เห็นพี่สองคนนี้คงจะมีแต่คนจำได้แน่นอน น้องแกะเป็นเอกลักษณ์ของพี่สองคนนี้มาก ตอนแรกเห็นพี่สองคนนั้นกับแกะตัวนี้แล้วได้แรงบันดาลใจให้น่าพ่วงน้องหมาสุดที่รักจากบ้านมาได้อีก 1 ตัว แบบถ้าเขาทำได้ หาที่พักได้ เราก็ต้องทำได้หว่ะ จะได้มีหมาให้เล่นตลอดเวลา (สำหรับคนที่ไม่รู้จักแน็ต แน็ตเป็นพวกรักหมาเป็นชีวิตจิตใจ ไม่สามารถเอาหมามาเองได้ ก็อาศัยเล่นหมาชาวบ้าน ไม่เชื่อถามพี่หน่อยกับน้องขนุน จากระนอง ไม่ก็พี่กบกับมิดไนท์ จากบ้านกรูดได้) แต่พอปั่นขึ้นเขาแต่ละลูกแล้วก็คิดว่าดีแล้วหละที่ไม่เอามา แค่ 2 คนกับกระเป๋า 6 ใบยังจะลากเลือดเลย นี่ถ้าเอาหมามาด้วยคงตายแน่ๆ เอ๊ะ…แต่เราก็ให้หมามันลากเราขึ้นเขาก็ได้นี่เนอะ เหอเหอ (ออกแนวใช้แรงงานหมา) เช้าๆเวลาปั่นผ่านฝูงหมาแค่นี่ก็โดนเจ้าถิ่นเกือบงับข้อเท้าไปหลายรอบหละ ถ้าเอาหมามาด้วย หมาเราคงไปกัดกับเจ้าถิ่นแน่ๆ เหอเหอ

กลับเข้าเรื่องต่อ….พี่นิสิตและพี่สุนีปั่นไปถึงบ้านโป่ง ระหว่างทางก็เม้ามอยกันเรื่อยเปื่อย พี่นิสิตก็ถามว่า น้องกะเขียนหนังสือหลังจบทริปมั้ย มีหลายคนมากที่ถามแบบนี้ มานั่งคิดๆดูหน้าอย่างชั้นเนียะนะเขียนหนังสือ มันจะมีคนอ่านหรอ ไร้สาระออกขนาดนี้ ใครซื้อไปเปลืองตังค์ตาย แต่ก็อยากเขียนนะ อยากเล่าประสบการ์ณให้คนอื่นอ่านบ้าง ถ้ามีสักคนหรือสองคน ถ้าให้ดีก็สามคน อ่านหนังสือเราแล้วปั่นทัวรริ่งบ้าง แค่นี่ก็ดีใจตายแล้ว 555

คำถามที่สองที่คนส่วนใหญ่ชอบถามว่า มาจังหวัดนี่แล้ว จะไปเที่ยวไหนบ้าง ไม่ก็อย่าลืมเที่ยวให้ทั่วนะ ส่วนตัวแน็ตนะอยากจะเที่ยวไปให้หมดทุกที่ใจจะขาด ไหนจะน้ำตก ไหนจะอุทยาน เกาะอีก วัดอีก โอ๊ย….องค์ทัวร์ไกด์ลง อยากไป เวลาเห็นป้ายสถานที่ท่องเที่ยวชี้ไปออกนอกเส้นทางแล้วก็เศร้าใจ  แต่เราสองคนไม่ได้ปั่นแข็งแรงอะไรขนาดนั้น ถ้าสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ระหว่างทางก็จะแวะนะ แต่ถ้าต้องปั่นออกนอกเส้นทางแล้วมันไม่ไหวจริงๆ ไหนจะต้องปั่นให้ครบทุกจังหวัดก่อนต้นเดือนพฤศจิกายนอีก ช้ากว่านั้นก็ไม่ได้ลูกค้าด่าตาย ตอนนี้ก็ได้แต่แวะเข้าการท่องเที่ยว ขอรายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัด แล้วค่อยวางแผนปีหน้ามาเที่ยวเก็บแต่ละที่อีกที

ปั่นมาถึงบ้านโป่งก็แวะทานข้าวหน้าเป็นรสเลิศ ของพี่เอ้ บ้านโป่งไปคนละหนึ่งจาน ยกเว้นพอลตานี่ฟาดไปสองจาน พี่เอ้มีสูตรเป็ดอบน้ำผึ้งมาจากจังหวัดเชียงรายเลยทีเดียว อร่อยขนาดไหนต้องไปลองกันเอง จากหอนาฬิกา บ้านโป่งขี่ตรงไปทางที่มีวินรถตู้ ไม่ก็ทางที่มีธนาคารกรุงไทยอยู่ ปั่นขึ้นไปสักพักก็จะเห็นโชว์รูมโตโยต้าอยู่ทางขวามือ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยตรงข้ามปากทางเข้ามีร้านซีร๊อกอยู่ ปั่นเข้าไปไม่ลึกมากก็จะเห็นร้านข้าวหน้าเป็ดทางด้านขวามืออยู่ แนะนำให้ไปทานคะ พี่เขาลงแรงไปเยอะมาก ขนาดไปไล่ชิมข้าวหน้าเป็ดดังๆในกรุงเทพ แล้วก็ทำทุกวิถีทางให้เข้าไปเห็นห้องครัวให้ได้ ลงทุนจริงๆ 555

ก่อนแยกย้ายกับพี่เอ้ พี่นิสิต และพี่สุนี เขาก็บอกทางจากบ้านโป่งไปเมืองกาญให้ พี่เอ้บอก ไม่ไกลเท่าไหร ประมาณ 40 กว่าโลได้ พร้อมทั้งอธิบายทางมาให้เสร็จสรรพ ขี่เลียบคลองชลประทานไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ถึงตัวเมือง อ้ายพอลไม่ฟังไง ไปตามทางจีพีเอสที่เพื่อนให้มา คิดว่าน่าจะขับอ้อมโลกไปไหนก็ไม่รู้ ร้อนก็ร้อน ลมพัดมาไม่ด้านหน้าก้ด้านข้าง นี่ดีนะที่วิวสวยไม่งั้นบ้าไปแล้ว จากที่ควรจะเป็น 90 กว่าโลวันนี้ก็กลายเป็น 111 กิโลไปได้อย่างไรก็ไม่รู้

ปั่นมาถึงอ.เมืองกาญ หลังจากทำธุระอะไรเรียบร้อย ฝนก็ตกลงมาห่าใหญ่มาก เลยจอดหาข้าวกลางวันกิน จอดที่ร้านอยู่ตรงข้ามสุสานพันธมิตรใกล้ ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ อร่อยมว๊าก ฟาดไป 2 อิ่มเลย แต่ระหว่างที่ทานอยู่ ฝนก็ตกหนักน้ำก็ไหลลงท่อ สิ่งที่ตามมาคิือสิงสาราสัตว์ที่อาศัยอยู่ในท่อมันก็ผุดขึ้นมาเต็มไปหมด ตามหาที่แห้งเพื่อเอาชีวิตให้รอด แม่เจ้า ไม่ว่าจะเป็นแมวงสาป ตะขาบหรือหนู เหมือนในหนังเลยอะ ที่แมลงงผุดขึ้นมาจากท่ออะ พี่เจ้าของร้านต้องเอาไม้กวาดมาร่ายรำคาถาไล่แมลงสาป พร้อมทั้งออกสเต๊ปเท้าไฟเหยียบขยี้ ถ้าคนกลัวแมลงสาปมาเห็นภาพนี้รับประกันเป็นลมร้อยเปอร์เซนต์ ด้วยความที่เราเป็นคนคิดในทางที่ดี ก็เลยเจ้าของร้านไปว่า พี่น่าจะดีใจนะที่มีสัตว์ป่าอยู่รายล้อมเต็มไปหมดเลย กร๊าาาาากกกก

Tags: Kanchanaburi, Ratchaburi, ไทย