On The Road

วันที่ 23 อ.เมือง จ.ระนอง ถึง หาดทุ่งวัวแล่น อ.ปะทิว จ.ชุมพร

และแล้วก็ทำลายสถิติไปอีก หนึ่งวัน 145 กิโลเมตร ไม่เหนื่อยเท่าไหร สงสัยเพราะแดดไม่ค่อยร้อน

เช้านี้ออกเหมือนเดิม ตึ 5 พี่หน่อยเจ้าของรีสอร์ท อุตสาห์ตื่นมาส่งด้วย ขอบคุณมากคะ กอดกันไปคนละที ไว้จะมาเยี่ยมใหม่เร็วๆนี้นา (ขอกลับไปทำงานหาตังค์ก่อน 555) เขาคิดถึงน้องขนุนแล้วอะ……

 

จะบอกว่าป้ายหลักกิโลตอนนอกจากระนองไปชุมพร นี่มั่วได้ใจจริงๆ ป้ายนึงเขียน 122….121….120….109…108…107….120….119…. ดูจนเลิกดู ประมาณว่าเอาหว่ะ ถึงเมื่อไหรก็เมื่อนั้นหละ

 

ปั่นก็ไปจนเจอป้ายเขียนว่าทางข้านหน้าขึ้นเขาลาดชัน โปรดระมัดระวัง ก็เดาเลยว่าต้องลูกนี่แน่นอนที่พี่สิทธิพงษ์บอกว่าชันที่สุดของวันนี้แล้ว สงสัยเป็นเพราะพักขาเมื่อวานหนึ่งวัน ไปแช่น้ำร้อนมาอีกครึ่งชั่วโมง….ของเขาดีจริงๆค่า วันนี้ปั่นขึ้นรู้สึกขาไปปวดกล้ามเนื้อเท่าเมื่อวันก่อน (เอ๊ะ…หรือชั้นคิดไปเองหว่า) เอาเป็นว่าปั่นกัน ฮึด ฮึด ฮึด แปปเดียวก็ถึง ทางลงเขาวิวสวยมาก มองเห็นเขื่อน ไม่ก็อ่างเก็บน้ำอยู่ลิบๆ ถ้าใครผ่านมาทางนี้ แนะนำให้จอดถ่ายรูปวิว ที่จุดชมวิวจุดแรกที่คุณเห็นตอนลงมานะ ตรงนั้นมุมจะสวยที่สุด เราได้มาถ่ายตรงจุดที่สอง แอบเตี้ยไปหน่อย แต่จะให้ปีนกลับไปใหม่ก็ไม่ไหวเช่นกัน พอลงมาถึงจุดนึงก็จะเห็นน้ำตกปุญญบาลอยู่ทางขวามือ สวยมาก เสียดายรถบรรทุกเยอะไปหน่อย ไม่งั้นเอาจักรยานไปจอดหน้าน้ำตกเพื่อถ่ายรูปไปแล้ว พอลงจากเขามาได้หน่อย ก็ได้ยินคนมาทักว่า อ้าว…วันนี้เป็นไงบ้าง พอหันไปไม่ใช่ใครอื่น พี่สิทธิพงษ์ ใส่เสื้อสีเขียว ขี่มอไซค์สีเขียวตามมานี่เอง พี่ตามมาเช็คเพื่อปีนไม่ขึ้น 555 สงสัยถ้าปีนไม่ขึ้นคงได้เอามอไซค์ลาก

 

ระหว่างทางก็ผ่านหลายอย่างมาก ไหนจะชื่อบ้านแปลกๆ บ้านปากสวะ ถ้าเข้าใจไม่ผิดอันนี้มันความหมายไม่ดีไม่ใช่หรอ แล้วก็ผ่าน บ้านทับหลี ซาลาเปาขึ้นชื่อของประเทศไทย พี่สิทธิพงษ์แนะนำให้ไปกินร้านชื่อออกจีนๆ คือจำชื่อไม่ได้หรอก แต่ถ้าเห็นก็นึกออกอะ หานานมาก หาจนปั่นข้ามบ้านไปเรียบร้อย เลยอดแด๊กของดีขึนชื่อ ทับหลีเลย (พ่อบอกว่าของแท้อร่อยมาก ของที่กทม นี่ทับหมามากกว่า 555 ก็ว่ากันไป) ผ่านคอคอดกระ จุดที่แคบที่สุด จากผั่งตะวันตก ไปตะวันออก โดยที่ไม่ติดประเทศอื่น ระยะทาง 40 ก.ม. เสียดายไม่ได้จอดถ่ายรูป ผ่าน ก้องวัลเล่ย เป็นรีสอร์ทผสมผสานกับการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม ใครผ่านมาทางนี้แนะนำให้เข้าไป เขาว่าสวยน่าดูเชียว

ถึงตัวเมืองชุมพร ก็แวะเข้าการท่องเที่ยวตามระเบียบ ให้ท่าน ผอ. เซ็น ท่านบอกว่าเมื่อก่อนก็ปั่นจักรยานทัวรริ่งเหมือนกัน กระเป๋ายังเย็บเองเลย ณ.ปัจจุบัน ไม่มีเวลาไปปั่น น่าเสียดายจริงๆ ถ่ายรูปเสร็จ ก็สอบถามถึงความเป็นมาของชื่อ ระนอง และชุมพร ที่ชื่อระนองเพราะเมื่อก่อนแถบนั้นมีแร่ดีบุกเยอะ ก็เลยเรียก แร่นอง เพี้ยนมาเป็นระนอง ส่วนชุมพร ท่านว่าเมื่อก่อนที่นี่มีต้อนมะเดื่อพันธุ์อุทุมพรเยอะ เลยเพี้ยนกลายเป็นชุมพร (เพี้ยนมาไกลมาก) ตอนแรกก็สงสัยว่าเกี่ยวอะไรกับ กรมหลวงชุมพร อะป่าวหว่า

 

ก่อนลา ท่านก้แนะนำว่าคราวหน้ามาดูเหยี่ยวอพยพพี่นี่ช่วงตุลาคม มาเป็นฝูงเลย ฝูงเดียวกับที่อพยพผ่านกุยบุรี จ.ประจวบ แล้วท่านก็แนะนำว่าให้มาเที่ยวทะเลไม่ว่าจะอันดามัน หรืออ่าวไทยช่วงเข้าพรรษาของทุกปี เพราะช่วงนั้นน้ำทะเลจะสงบ เรียบสวยงาม (คิดว่าคงเป็นช่วงที่พายุกำลังคิดว่าจะซัดเข้าฝั่งไหนดี 555)

และแล้ววันนี้ก็ได้เปลี่ยนยางนอกเสียที ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ Marathon แต่อันนี้ก็ไม่มีรูหละ 120 บาท ใช่ไปก่อน ไว้ถึงหัวหินค่อยเปลี่ยน

 

เจอ John Graham ด้วย หนึ่งในสปอนเซอร์ จากเวบไซต์ www.bicyclethailand.com มาปั่นเป็นเพื่อนยันหัวหิน เย้ๆๆๆ คิดถึงจริงเชียวไม่เจอตั้งนาน ขนดกขึ้นเยอะนะเธอ 555 หนวดงี้เฟิ้มเชียว สำหรับสาวๆที่ยังโสด ชอบปั่นจักรยาน อยากหาแฟนต่างชาติก็ขอแนะนำคนนี้นะคะ นิสัยดีมาก บ้าจักรยานไปหน่อยแต่ก็น่าจะคุยกันได้

 

คืนนี้พักที่โรงแรม nana beach ที่หาดทุ่งวัวแล่น อ.ปะทิว คืนละ 900 บาท นี่ราคาถูกที่สุดแล้วนา กรี๊ด………

 

 

 

 

 

 

 

 

Tags: , ,

No comments yet.

Add your response