วันที่ 117-118 ล่องแก่งจาก อ.ปาย ถึง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน
มาทางน้ำระยะทาง แค่ 60 กิโลเองอะ
ตัดสินใจกันแล้วว่าปั่นเส้นทางนี้ ปั่นรอบเดียวก็พอ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ยากอย่างที่คิด ปั่นหลายๆรอบ ไม่ไหว เดี๊ยวขาล่ำเกิน 555 เปลี่ยนมาล่ำที่แขนบ้าง
ไม่เคยล่องแก่งมาก่อนนะ แต่เวลาเห็นในวิดีโอ แม่เจ้า น่ากลัวโคดอะ ไหนจะหิน ไหนจะน้ำ คือเป็นคนกลัวอะไรก็ตามที่ไม่สามารถควบคุมได้อะ ไม่ชอบกระโดดหอ ไม่ได้กลัวความสูงนะ เคยกระโดดมาแล้ว เลยรู้ว่าที่กลัวคืออาการที่ไม่สามารถควบคุมทิศทางตามที่ใจต้องการได้ เคยไม่เข้าใจความรู้สึกนี้ไปลองกระโดดดู ล่องแก่งในความคิดเราคือ ถ้าอยู่บนเรืออะก็โอเค เพราะมีกัปตันมาด้วย เขาชำนาญในเรื่องการบังคับเรืออยู่แล้ว แต่ถ้าตกไปในน้ำนี่สิ ดูมันไหลเชี่ยวเกินเราจะว่ายทวนไหว ถึงแม้จะมีดีดกรีเหรียญทองว่ายน้ำของสมเด็จย่า แต่ก็ไม่ไหวอยู่ดี 555
วันนี้ออกเดินทาง 8.45 คุณกาย เจ้าของบริษัื Thai Rafting Adventure ที่ปายมารับ พร้อมกับอีกหนึ่งลูกทัวร์ ซึ่งเป็นชาวออสซี่เหมือนกันชื่อ ร๊อบมารับที่โรงแรม แล้วเราก็ปั่นจักรยานตามไปที่บ้านพักคุณกายเพื่อที่จะเริ่มวัดตัวใส่เสื้อซูชีพกันตรงนั้น ก่อนที่จะได้ลอง คุณกายก็ถามถึงทริปที่เราปั่นมารวมถึงขอถ่ายรูปคู่กับจักรยาน พอลเห็นท่าทางเขาสนใจน่าดู เลยเสนอให้นั่งหน้าแล้วพอลจะพาปั่น 555 สนุกสนานกันใหญ่ สังเกตุแล้วว่า พอททุกคนได้ลองมานั่งตำแหน่งแน็ตนะ ร้อยทั้งร้อยจะบอกว่า เสียวอะ ยิ่งเวลาเลี้ยวนี่เสียวน่าดูเลย กลัวจะหลุดออกไป 555
ก่อนเริ่มเดินทาง คุณกายก็อธิบายกฏข้อบังคับแบบย่อๆให้ฟัง พอลก็ถามว่าบริษัทนี้ตั้งมากี่ปีแล้ว คุณกายบอก เป็นบริษัทแรกที่ทำล่องแก่งบนแม่น้ำปาย และก็เป็นบริษัทเดียวที่ยังคงอยู่ ที่เห็น 2-3 บริษัทนั้น ไม่ล่องที่แม่น้ำปาย แต่ล่องที่แม่น้ำของแทน คุณกายบอก มาตั้งได้สักพัก ก็มีคนมาตั้งเลียนแบบเยอะมาก อาศัยราคาถูกกว่าเป็นตัวนำ ที่ถูกกว่านี่เพราะว่าใช้ของคุณภาพต่ำ เช่นเรือยาง ก้เป็นเรือคุณภาพไม่ค่อยดี ชูชีพก็งั้นๆ ไม่คงทนพอที่จะล่องแก่งบนแม่น้ำปายได้ ราคาล่องแก่งที่เราจ่ายให้ตุณกาย แบบ 2 วัน ราคาตกอย่ที่คนละ 2,500 บาท จะว่าแพงก็แพงนะ แต่มันเป็นประสบการ์ณที่จะจำไปอีกนาน 555 ไม่เสียดาย 5,000 บาทสำหรับสองคนที่จ่ายไปเลยทีเดียว
คุณกายว่าเมือสองวันก่อน ทัวร์เดียวกันมีคนมาประมาณ 22 คน แต่รอบเราโชคดีเพราะมีแค่ 3 คน ดีแล้วคนน้อยๆ เผื่อมีโอกาสได้เห็นสัตว์ป่า
ก่อนเริ่มล่องแก่ง คุณกายก็อธิบายถึงชุดคำสั้งที่กัปตันจะบอกให้เราพาย หรือหยุด หรือพายกลับ รวมไปถึงถ้าตกน้ำแล้วทำยังไง เวลาลอยอยู่ท่าปลอดภัยคือท่าไหน เจอกิ่งไม้ เจอหิน ให้ทำยังไง ฟังไป 3-4 ชุดคำสั่งก็โอเคอยู่ แต่หลังๆนี่ฟังแล้ว งงมาก ต้องให้พอลอธิบายอีกที เหอเหอ กัปตันที่มากับเราชื่อ ไมค์ เป็นชาวมูเซอ พูดไทยชัด อังกฤษก็ชัด มีบัตรไกด์ พร้อมกับประสบการ์ณในการล่องแก่งเส้นนี้มากว่า 15 ปี ก่อนขึ้นเรือ เราก็ตบไหล่ไมค์แล้วบอกว่า เราเชื่อใจในฝีมือการบังคับเรือของคุณนะคะ 555
วันแรกก็ไม่มีอะไรมาก ชิวๆ ชั่วโมงแรกยังอยู่ในเขตชาวบ้านอยู่ ก็เลยไม่มีอะไรมาก เจอแก่งนิดหน่อย หยุดพักทางกลางวัน ริมแม่น้ำปาย สวยมาก เพราะข้างหน้ามีแม่น้ำปายที่ล่องมา ข้างๆตรงจุดที่หยุด มีแม่น้ำสายเล็กตื้นๆ ทีี่มาจากหมู่บ้านข้างบนไหลลงมา อาหารห่อมาในใบตอง ให้อารมณ์ธรรมชาติโคดๆ อะ ทานกลางวันเสร็จ พักสัก 1 ชั่วโมง ก็เริ่มล่องต่อ คิดว่าน่าจะวางแผนไว้ตัี้งแต่แรก ว่าให้ชิวๆก่อน แวะทานอาหารเที่ยงเติมพลังแล้วค่อยจัดหนัก อุแม่่เจ้า หัวใจแทบวาย มาแต่ละแก่ง น่ากลัวโคด ที่น่ากลัวนี่เป็นเพราะไม่เคยเจอ เพราะพอเทียบกับแก่งของวันที่สองแล้ว วันแรกนี่เรียกว่า จิ๊บๆไปเลย เหอเหอ บางจุดที่เป็นแม่น้ำเรียบๆ กัปตันไมค์ ก็จะบอกให้เราลงไปว่ายน้ำได้นะ ต่างคนต่างกระโดดลงน้ำ จากที่นั่งร้อนๆอยู่บนเรือก็เย็นขึ้นในทันที ต่างคนต่างลอยกลิ้งไปกลิ้งมา สนุกมาก กระแสน้ำก็ได้นำพาพวกเราลอยไปเรื่อย ตอนลงอะไม่เท่าไหร แต่ตอนปีนกลับขึ้นไปนี่สิ อืม…ยากกว่าที่คิด กัปตันไมค์ต้องลากขึ้นเรือไปเลยทีเดียว วันนี้เช็คแล้วว่าคืนนี้คงจะปวดแขนแน่ๆ เพราะไม่ค่อยได้ออกกำลังกายช่วงบนเท่าไหร
เย็นนี้พักกันที่แคมป์กลางป่า เป็นแคมป์สร้างด้วยไผ่ง่ายๆ ห้องนอนก็ไม่มีอะไรมาก ประตูยังไม่มีเลย เป็นแบบเปิดสุดๆ ดีนะที่มีมุ้งกันยุง และฟูกนอนพร้อมผ้าห่มให้ แคมป์นี้สามารถรองรับได้ถึง 30 คน แต่เรามา 3 คนเลยสบาย เนื้อที่ให้กลิ้งได้อย่างเยอะ แคมป์นี้มีคนเฝ้าแคมป์ 2 คนด้วยกัน เป็นชาวมูเซอทั้งคู่ นั่งคุยด้วย ถามเขาว่าที่นี่บางทีมีสัตว์ป่าหลงมาบ้างมี่ย เขาก็ว่ามี บางทีก็หมูป่า งูเหลือมนี่มาทุกปี ปีที่แล้วก็มา ปีนี่ยังไม่มา ตัวใหญ่มากก็ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร คิดในใจ มาเมื่อไหรก็ได้ ที่ไม่ใช่วันนี้นะ 555 อาหารเย็นปรุงด้วยฝีมือกัปตันไมค์ ใช้เตาฟืนธรรมดา ธรรมชาติอีกแล้ว มีกระบอกไม้ไผ่ต่อยาวมาก จากธารน้ำข้างในเพื่อทำหน้าที่ส่งน้ำสะอาดจากน้่ำตกข้างในมาให้ใช้อาบน้ำ ใช้ล้างจาน ไฟฟ้าที่นี่ไม่มี ทุกอย่างใช้แสงเทียนหมด ระหว่างนั่งเม้ามอยกับร๊อบ ก็เห็นแสงไฟวิบวับอยู่ นึกว่ากระสือ 555 ทีไหนได้ หิ่งห้อย เต็มไปหมดเลย เกาะอยู่บนริมน้ำ เป็นเหมือนแสงเทียนคอยนำทาง มีตัวนึงบินมาใกล้มาก ใกล้จนจับได้อะสวยมาก สักพักก็แยกย้ายกันไปนอน ก่อนนอน พอลอยากได้ฟูกเพิ้ม และแล้วสิ่งที่ไม่อยากเห็นก็มา ตุ๊กแก ตัวเบ้อเริ่ม เกาะอยู่บนฟูกที่แขวนไว้ ดีนะที่ก่อนมืด เรามีเอามุ้งลง พร้อมทั้ง เอาฟูกส่วนนึงเข้าไปไว้ในมุ้งเรียบร้อย ตุ๊กแกโคดหลอนอะ พอลเคาะฟูกไล่ไปสักพัก ตุ๊กแกเปลี่ยนใจ แทนที่มันจะเกาะอยู่ข้างหลังฟูก ดันย้ายที่ยืนมาข้างหน้าฟูก เกาะประจันหน้ากับเรา อุแม่เจ้ ทำใจไม่ได้เลยทีเดียว สยองมาก ไม่ชอบลายมันเลย ไม่กล้าเดินผ่าน พอลบอกเดินมาเร็วๆดิ เราก็ว่าเกิดมันกระโดดมาอะ ได้มีกรี๊ดเขาแตกแน่ นอนก็นอนไม่หลับ เพราะปวดแขน ไม่รู้จะเอาแขนไปวางไว้ไหน 555
ตื่นเช้ามาคุยกับร๊อบ ว่าเมื้อคืนเห็นตุ๊กแกป่าว เขาว่าไม่เห็นอะ เมื่อคืนร๊อบนอนคิดทั้งคืนเลยว่าจะเป็นยังไงถ้างูเลื้อยเข้ามาในมุ้งเขา 555 ร๊อบนอนอยู่ แล้วแขนปัดไปโดนขาตัวเอง ตกใจตื่นนึกว่างูเข้ามา 555 ฮากันกล้ิง คืนนั้นแน็ตนอนอยู่ดีๆแขนไปโดนแขนพอล ก็ตกใจเหมือนกัน พอลก็ตกใจ 555 เราก็บอกไป ก็แขนแกขนเยอะอะ ชั้นก็นึกว่าสัตว์ป่าสิ 555
ระหว่่างทานอาหารเช้า ก็ได้ยินเสียงชะนี ร้องน่าจะหลายตัวเชียว แต่หาตัวไม่เจอ ร๊อบเดินเข้าไปในป่า ระหว่างที่รอเวลาออกเดินทาง ครึ่งชั่วโมงต้่อมาก็กลับมาพร้อมบอกว่าเมื้อกี้เห็นชะนีด้วย โหนไปโหนมา ถ่ายวีดีโอมาด้วย แต่ชะนีอยู่ไม่นิ่งอะ เลยไม่รู้ถ่ายติดหรือเปล่า พอลองเปิดดูถึงได้รู้ว่าไม่ติดเลยแม้แต่นิดเดียว 555 ร๊อบบอก คิดอยู่เนียะถ้าเดินๆอยู่แล้วมีเสือ หรือหมีมาเขาจะป้องกันตัวยังไง แล้วก็นึกได้ว่า ถ้ามันมานะ จะเอารองเท้าแตะตบให้เชื่องเลย อืม….แค่นึกภาพก็ฮาหละ นึกภาพฝรั่งเอารองเท้าแตะพยายามตบเสือ แล้วโดนเสือตบกลับ คิดว่าคนหรือเสือจะเชื่องก่อน 555
9 โมงเช้าได้เวลาออกเดินทาง ล่องแก่งต่อ วันนี้ช่วงแรกก็ชิวๆ ไม่มีอะไรมาก เห็นเหยี่ยวด้วย ตั้ง 1 ตัว เหอเหอ วันนี้แก่งแอบใหญ่กว่าเมื่อวาน เราบอกกัปตันไมค์ว่า แบตกล้องใกล้หมดแล้ว รบกวนช่วยบอกหน่อยนะ ถ้าถึงแก่งทีใหญ่ที่สุดจะได้ถ่ายวีดีโอ มาถึงจุดที่แก่งใหญ่สุดแล้ว ก็จะบอกว่าเห็นไกลๆก็ไม่น่ากลัวนะ ดูไม่แรงเท่าไหร แต่พอเข้าใกล้ ไอ้ที่ไม่แรงเท่าไหรเนียะหละน่ากลัว เพราะมันแบ้่งเป็๋นสองชั้น แล้วความต่างของสองชั้นดันสูงกว่าปรกติ ถ่ายอยู่ดี เรือคว่ำ ตกใจอะ คนอื่นคว่ำแล้่วหลุดออกไปนอกเรือ เรานี่ไม่รู้คว่ำท่าไหน ติดอยู่ใต้ท้องเรือ แต่แปปเดียว ตามกฏของที่นี่ ตกเรือได้แต่ให้เกาะไม้พายไว้กับตัวตลอดเวลา ห้ามปล่อย แต่ตอนที่ลงแก่งนี้ เราวางไม้พายไว้เพื่อที่จะได้ถ่ายวีดีโอ สรุปไม้พายหายไปไหนไม่รู้ หลังจากกลืนน้่ำไปหลายอึกกับแก่งนี้ พอลืมตาขึ้นมาพยายามอยู่เหนือน้ำ ก็เห็นไม้พายใครไม่รู้สีชมพูลอยมาข้างหน้าพอดี พร้อมทั้งขวดน้ำใครก็ฌไม่รู้ มือซ้ายเลยเกาะไม้พาย มือขวาเกาะขวดน้ำ คือไม่อยากที่จะก่อมลภาวะในแม่น้ำไง ก็ไม่ได้สำเหนียกเลยว่า แล้วจะเอามือไหนว่ายน้ำ เหอเหอ สักพัก ฃก็เห็นว่าพอลพยายามพาตัวเราอยูู่ ดีนะทที่ใส่หมวกกันน๊อกกันคนละสี เลยหากันไม่ยาก พอลบอกให้ว่ายเข้าฝั่ง เราก็ว่า ว่ายไม่ไปอะ น้ำมันแรง ไม่มีมือด้วยเหอเหอ อนาถมาก ดีกรีนักกีฬาว่ายน้ำเหรียญทองสมเด็จย่าหมดกัน 555 สักพักเพราะพยายามว่ายไปเกาะกิ่งไม้แล้วบอกให้เรายื่นไม้พายมาเพื่อที่จะดึงเข้าฝั่ง แต่น้ำไหลแรงเกิน มือพอลเลยหลุดออกมากจากกิ้งไม้ ดีนะที่ไม่บาดมือ สักพัก พอลจับเสื้อชูชีพเราได้ ก็เหวี่ยงเราเข้าฝั่ง เลยส่งผลให้ตัวพอลหลุดออกไปตามกระแสน้ำแทน แต่สักพักก็กลับเข้าฝั่งได้ โห…ซึ้งใจอย่างสุดๆอะ ถึงแม้่ว่ามันจะงี่เง่า เอาแต่ใจ แต่เขาก็เป็นห่วงชีวิตเราเนอะ ซึ้งโคด สุดท้ายทุกคนกลับเข้าฝั่งรวมไปถึงกัปตันไมค์ที่พลิกเรือไวมาก กระโดดขึ้นเรือก็โปรมาก พอลให้ฉายาไปว่านินจาล่องแก่ง พี่แกโปรมาก ตะโกนบอกให้เข้าฝั่ง แล้วก็ออกไปตามหาไม้พายที่เหลือเอง ขึ้นเรือไปใหม่เขาบอกทุกทีจะออกขวา ไม่ก็ซ้าย แต่รอบนี้ไปตรงๆเลย เราก็บอก แหมกลัววีดีโอออกมาไม่ตื่นเต้นหรอพี่ ระหว่างทางก็ได้ลองล่องแก่งมนุษย์ 555 คือแทนที่จะใช้เรือ ก็ใช้ตัวเราเนียะหละ ล่องแทน ไม่ใช่ว่าทำได้ทุกแก่งนะ เฉพาะบางแก่งเท่านั้น กัปตันไมค์บอก ให้อยู่ท่าแปลอดภัยไว้ตลอดเวลาขาตั้งขึ้น เพื่อที่จะป้องกันการกระแทกกับหิน ก็สนุกไปอีกแบบ พอลเอามือเขาดึงเสื้อชูชีพเราไว้ตลอดเวลา เพื่อกระแสน้ำพัดออกไปอีกทางเขาจะได้ดึงกลับมาได้ โอโห…เหนื่อยมาก แต่สนุกสุดๆอะวันนี้จะจำประสบการ์ณนี้ไปอีกนาน รู้สึกดีนะ ที่ตัดสินใจล่องแก่งช่วงนี้ ถ้ามาล่องแบบนี้ตอนแก่คงไม่ไหวอะ ตายก่อนพอดี 555