วันที่ 112 อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ถึง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
วันนี้มาแบบง่ายๆ สบายๆ พอลเปิดกูเกิ้ลแมป เจอเส้นทางที่ผ่าน ถ้าปั่นด้วยจักรยาน ระยะทางก็ประมาณ 68 กิโล ปั่นอ้อมเขื่อนแม่งัด อ้อมเขาไปเลยหนึ่งลูกถ้วน แถมขึ้นๆลงๆอีกตะหาก
ก็เลยตัดสินใจโทรไปการท่องเที่ยว สอบถามเกี่ยวกับล่องเรือชมวิวที่เขื่อนแม่งัด ก็ได้ข้อมูลมาให้ติดต่อโทรไปถามที่แพเองเลย เพราะส่วนใหญ่ จะมีเรือแล่นอยูู่ในเขื่อน ไม่มีรับจากต้นทางไปส่งปลายทาง แต่พอโทรไปหาที่แพ เจ้าของแพก็ไม่เคยทำนะ แต่เขาก็ยินดีช่วย สุดท้ายได้เบอร์คนขับเรือเล็ก (แต่ก็ยาวนะ นั่งได้ประมาณ 4 คนบวกกับจักรยานอีกประมาณ 4 คัน) รับจากท่าเรือเล็กแม่ปั๊ง แล้วไปส่งที่ท่าเรือแม่งัด จากท่าเรือแม่งัดก็เหลือประมาณ 15 กิโลเมตรก็ถึงแม่แตง ราคา 1,200 บาท ใครสนใจติดต่อได้ที่ คุณชล 0884355902
ตอนที่ตุยเนียะ คุณชลเขาก็ยอมรับนะว่าไม่เคยมาทางนี้เหมือนกัน ไม่รู้ว่าท่าเรือเล็กแม่ปั๊งนี่อยู่ตรงส่วนไหนของ ต.แม่ปั๊ง แต่พี่เขาว่ามันมีอยู่ท่าเดียว ถามคนแถวนั้นเขารู้แน่นอน เราก็โอเค มีท่าเดียวหาไม่ยาก ที่ไหนได้ เอาเข้าจริงถามใคร ส่วนใหญ่ไม่รู้ บางคนบอกอยู่ใกล้สถานีตำรวจโหล่วขวด พอไปถึงสถานีตำรวจ มันมีสะพานใหญ่ข้ามแม่น้ำนะ แต่ไอ้แม่น่ำเนียะ ไม่มีน้ำ คือไม่ใช่ท่าเรือร้อยเปอร์เซนต์ ไปถามตำรวจที่สถานี คำพูดแรกที่เขาบอกคือ ที่นี่มีท่าเรือด้วยหรอ คิดในใจอิ๊บอ๊ายหละ แล้วพอให้คนเรือซึ่งก็ไม่เคยมาทางนี้ คุยก็ตำรวจที่ก็ไม่รูู้ว่าที่นี่มีท่าเรือ ก็สรุปได้ว่า ให้ปั่นขึ้นไปอีกนิดนึงเลยสถานีตำรวจไป ข้ามสะพาน แล้วทางขวาจะมีทางลูกรังอยู่ ให้ไปตามทางนั้นเลี้ยวขวา เลี้ยวซ้าย ขับไปเรื่อยๆก็จะเจอท่าเรือ แล้วก็จบประโยคที่ว่า พี่ก็ไม่เคยไปนะทางนั้น วันๆอยู่แต่บนโรงพักนี่ คิดในใจ เพิ่งถูกย้ายมาป่าวเนียะ หรือว่าเป็นตำรวจที่ไม่ค่อยทำงานลงพื้นที่ สุดท้ายไปตามทางที่เขาว่า บวกกับสอบถามคนชาวบ้านตรงปากทางเข้า ก็ได้ความว่า ตรงเข้าไปตามทางลูกรังเนียะหละ (ข้างหน้ามีป้ายเขียนทางไปมูลนิธิบ้านอุ่นใจ) ตามทางไปจนสุดแล้วเลี้ยงขวา ตรงไปสักพักให้เลี้ยวซ้าย ห้ามตรงไป เพราะเป็นทางขึ้นดอย เลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปสักพัก จะเจอสามแยก แล้วเลี้ยงขวาตรงไปเรื่อยเลย คุณชลยืนรออยู่พอดีเลยหาเจอ ถ้่าเป็นคนอื่นมา ก็เอาให้ชัวร์นะว่าเขาจอดเรือตรงไหน เพราะไอ้ที่ว่่าเป็นท่าเรือเล็กอะ มันไม่มีท่านะ คือเขาจะจอดตรงไหนก็จอดอะ
เรือที่นั่งวันนี้เป็นเรือหางยาว ไม่มีหลังคา ติดเครื่องข้างหลัง เสียงดังน่าดู ขนาดก็อย่างที่บอกถ้ามา 4 คนกับจักรยาน 4 คันก็น่าจะนั่งได้ไม่มีปัญหา มีเสื้อชูชีพให้ด้วย เราก็บอกพอล เฮ้ยผุกเสื้อชูชีพให้จักรยานด่วน เกิดเรือล่่มขึ้นมา อย่างน้อยจักรยานก็รอด 555
ความสวยงามของทิวทัศน์วันนี้ ไม่มีคำพูดจะบรรยายจริงๆ เป็นการจ่ายเงิน 1200 บาทที่คุ้มมากอะ น้ำนิ่ง สะท้อนเงาของภูผาที่วางเป็นแนวสองฝั่ง สวยงามมาก แอบเห็นฝูงควายเล็มหญ้าอยู่ริมน้ำ คิดว่าน่าจะมีเจ้าของ หนึ่งในฝูงควายเป็นควายเผือก อุแม้เจ้า ขาวทั้งตัวเลย จะถ่ายรูปมาหละ แต่ไกลเกิน ที่นี่เขามีบริการค้างคืนบนแพในเขื่อนแม่งัดด้วย เห็นกลุ่มชาวต่างชาติ กำลังพายเรือคายัคอยู่ บางคนตกปลา บางคนนั่งชืวๆอยู่ริมน้ำ ถ้าคนต่างชาติมีสิทธิมาที่แบบนี้ แล้วคนในพื้นที่กันเองไม่รู้จัก ก็น่าเสียดายนะ คือลืมเรื่องแอร์ และอินเตอร์เน๋ตไปได้เลย เพราะไม่มีไฟ คิดว่าใช้ที่ปั่นไฟ มีอาหาร เครื่องดื่มขายอยู่แพใกล้ๆ นึกสภาพถ้าเป็นตอนกลางคืนสิ แล้วท้องฟ้าแบบไร้เมฆด้วยนะ นั่งดูดาวคงสวยน่าดูอะ
บางคนอาจมอง ว่าโกงนี่หว่า นั่งเรือ เราก็จะบอกไปว่า ถ้าปั่นมา 7000 กว่ากิโล แล้วนั่งเรือ 1 ชั่วโมงกับระยะทาง 30 กิโลเมตร มันถือว่าโกง ก็เอาเฮอะ งานนี้ปั่นฮันนีมูน ยังไงก็อยากที่จะแอนจอยกับการฮันนีมูนนี้อยู่ดี