วันที่ 11 ปัตตานี ถึง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
อีกหนึ่งวันที่เกิน 100 กิโล วันนี้ปั่นมา 119 กิโล แถมเขาระหว่างทางเยอะจริงจัง
ปัตตานีปั่นมาส่งที่เทพา แต่พี่ซี และ พี่ญาญ่า ปั่นมาถึงแค่กินอาหารเช้า ร้่ำลากัน น้ำตาเกือบไหลอะ ดีนะที่ไม่ได้อ่านที่พี่ๆเขาเขียนให้ ไม่งั้นมีร่วงแน่ ขอบคุณชมรมปัตตานี, นราธิวาส, ยี่งอ, รือเซาะ, รามัน และทุกๆคนที่ไม่สามารถเอ่ยนามได้หมดอีกครั้งที่ดูแล เราทั้งสองคน ขี่มาเป็นเพื่อน ขอบคุณอีกพันครั้งก็คงไม่เท่ากับที่เรารู้สึก ชาวใต้ได้ใจเราไปแล้วเต็มๆ
ระหว่างทางมาหาดใหญ่ เขาก็เยอะเหลือเกิน ไม่รู้จะเยอะไปไหน ปั่นจนเมื่อย ดีนะที่ไม่ร้อนมาก ไม่งั้นตายแน่ๆ สงสารพอลอะ ปั่นขึ้นเนินแต่ละทีคงเหนื่อยน่าดู เราก็ช่วยปั่นนะ แต่พอปั่นไปได้ถึงจุดนึง คิดว่าคงจะเกร็งกล้ามเนื้อขามากไปหน่อย เพราะขาจะรู้สึกจั๊กจี๋อะ มันปั่นต่อไม่ออก เหอเหอ เมื่อวานลองจับขาพอล โอ้….เอาไปขายขาหมูคากิได้หลายบาทเลยนะเนียะ
ถึงหาดใหญ่แวะไปการท่องเที่ยว ขอบคุณมากคะที่เซ็นหนังสือ พร้อมอธิบายทาง และให้ข้อมูลเกี่ยวกับ อ.หาดใหญ่ ก็ได้พี่เขานี่หละที่ชี้ทางไปร้านจักรยานให้ พอไปถึงร้านจักรยาน ก็ขอนามบัตร ระหว่างรอพี่เจ้าของร้าน ก็สะดุดตาเห็นผู้หญิงคนนึงนั่งอยู่ หน้าคุ้นมาก แต่ไม่แน่ใจ พอถามเจ้าของร้านว่าคนนั้นใช่พี่บีมั้ยคะ เขาก็บอกใช่ เท่านั้นหละ โลกกลม โลกแคบขึ้นมาทันที พี่บีเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่บ้านตรงข้ามกันมานานกว่า 20 ปี เล่นตีแบต ลัลล้ากันมาตั้งกะเด็กๆ พี่สาวพี่บีบอกว่าเดี๋ยวนี้พี่บีมาทำเกี่ยวกับจักรยาน ก็ไม่คิดว่าจะได้มาเจอกัน
คืนนี้พี่บีเลยชวนให้ไปนอนที่บ้าน อ๋อลืมบอกไป ตอนนีพี่บีเป็นตัวแทนจำหน่ายจักรยานยี่ห้อ Bianchi ของฝั่งภาคใต้อยู่ ร้านซานาไบค์ที่นราธิวาสก็รู้จักพี่แกดี บ้านพี่บีนี่ ข้างล่างเป็นออฟฟิศขายจักรยาน และอะไหล่ แล้วก็มีรับซ่อมด้วย ชั้นบนเป็นห้องนอน คืนนี้เราก็นอนที่นี่โลด พี่บีเห็นจักรยานเขาก็บอก อ้าวเมื่อกี้แน็ตเองหรอที่โบกมือขอทางเข้าเลนขวาหน้ารถพี่ 555
ก่อนนอนก็ได้พี่บีพาเที่ยวหาดใหญ่ พาไปจุดชมวิว ที่สามารถขึ้น เคเบิ้ลคาร์ไปดูวิวรอบเมืองได้ แต่เนื่องจากทุกคนหิวมาก เลยแค่ดูวิว ถ่ายรูปเป็นที่ระทึก แล้วก็กลับบ้าน
เย็นวันนี้ได้พี่หนึ่ง แฟนพี่บีทำอาหารเย็นให้ อาหารง่ายๆ แต่ให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้าน ชอบๆๆๆ อร่อยมาก ขอบคุณนะค่า กินข้าวไปคุยเรื่องทริปไป พี่บีปั่นทัวรริ่งบ่อยๆ ก็เลยได้รับประสบการ์ณการขี่ไปแม่ฮ่องสอนมา ฟังแล้วก็น่ากลัว จะไปรอดมั้ยเนียะ
**ต่อเติม ลืมไปได้อย่างไร วันนี้เราสองคนได้ลงหนังสือพิมพ์ด้วย หนังสือพิมพ์กระแสใต้ ตอนไปรือเซาะพี่เขาไปทำข่าวพอดี เราก็เลยได้ออกข่าว เหอเหอ ไฮโซม่ะ พอลบอกต่อไปเราก็จะได้ลง บางกอกโพสต์ โอ้วววว คิดไปไกลเลยนะแก
เนื้อข่าว :
7 มิ.ย. 2555 ที่สำนักงานเทศบาลตำบลรือเสาะMr.paul Hamom ชาวออสเตรเลีย และ Mrs.Natt Hamon หญิงชาวไทยได้ปั่นจักรยานราคามูลค่ากว่าสามแสนเพื่อฮันนิมูนทั่ว77 จังหวัดประเทศไทย ได้เข้าแวะที่สำนักงานเทศบาลตำบลรือเสาะ โดยมี นายวิเชษฐ์ ไทยทองนุ่ม นายกเทศมนตรีตำบลรือเสาะ นายประพฤกษ์ นิลโมทย์ปลัดเทศบาลตำบลรือเรือเสาะ และชมรมปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพเทศบาลตำบลรือเสาะให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นใจ
สำหรับ Mrs.Natt Hamon (แน็ต)หญิงชาวไทยพุทธ และ Mr.paul Hamom (พอล)ชายชาวออสเตรเลียได้โคจรมาพบกันเมื่อ 5 ปีก่อน และเมื่อวันเสาร์ที่ 5 พ.ค. 2555 ที่ผ่านมาทั้งสองก็เพิ่งจะจัดงานแต่งงาน เป็นความรักที่ไม่มีพรหมแดน ผสมผสานของสองวัฒนธรรม มาร่วมทุกข์ร่วมสุขกันทำให้เกิดงานแต่งงานครั้งนี้ พอมามองถึงการฮันนีมูน ทั้งสองคนเลยเกิดไอเดีย “ความท้าทายทุกจังหวัด” ขึ้นมา
จุดประสงค์หลักๆก็เพื่อโปรโมทเวบไซต์ ทัวร์ไกด์ของแน็ตเอง (yourthaiguide.com) และก็เพื่อสุขภาพและความสุขทางใจ ที่จะปั่นให้ครบทั้ง 77 จังหวัด + กรุงเทพมหานคร
โดยการขี่ผ่านอำเภอเมืองของแต่ละจังหวัด แล้วแวะ ที่ว่าการอำเภอ, สถานีตำรวจ หรือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (แล้วแต่เวลาและวัน ที่ปั่นถึง) เพื่อขอนามบัตร และลายเซ็นของเจ้าหน้าที่ เป็นพยานยืนยันว่าเรามาถึงจริงๆ พร้อมกับต้องถ่ายรูปไว้เป็นที่ระทึก
ภาพข่าว/ประพันธ์ ฤทธิวงศ์ บรรณาธิการข่าว 3 จว.ชายแดนใต้ รายงาน