On The Road

วันที่ 100-103 อ.เมือง จ.แพร่ ถึง อ.เมือง จ.น่าน

จังหวัดที่ 56 แล้ว ผจญภัยทัวร์นี้มาแล้วครบ 100 วัน เย้ๆ

มีแต่คนบอกว่า เขาที่จะต้องข้ามมาวันนี้ สูงกว่าเขาพรึงที่ผ่านมา แล้วไม่ขึ้นแล้วลงอย่างเดียว แต่ขึ้นๆลงๆ ซึ่งมันก็จริงอย่างเขาว่า ขึ้นๆลงๆตลอดทางเลย เยอะแบบไม่ได้คิดว่าจะเยอะขนาดนั้น จนสักพักก็คิดว่า เมื่อไหรมันจะจบหว่า เมื่อยแล้วนะเฟ้ย

 

มาถึงเมืองน่านด้วยความประทับใจในตัวเมืองที่ไม่ใหญ่มาก เรียบง่าย สงบ ร่มรื่น คือเป็นเมืองที่สะอาดมากอะ

 

วันนี้แวะพักที่โรงแรมไผ่เหลือง อยู่ข้างหลังพิพิธภัณฑ์ เหมือนบ้านไม้ธรรมดา คืนละ 400 บาท สวยในแบบสไตล์บ้านไม้เก่าๆ แต่กำแพงบางน่าดู 555 ให้อารมณ์อีกแบบดี

 

เย็นนี้พอลอยากกิน พิซซ่า เฮียไปหาร้านพิซซ่าเจอจาก Lonely Planet ดูจากแผนที่แล้ว โอเคไม่ไกล เดินไปเรื่อยๆ เอ๊ะ เริ่มหลงทาง ถามทางไปมา ได้ความว่าย้ายไปที่อื่นแล้ว พอลงอนน่าดูเลย คืดว่าเฮียตั้งความหวังกับมื้อเย็นนี้ไว้เยอะมาก เดินไปบ่นไป อุบอิบ น่ารำคาญ และน่ารักไปอีกแบบ สุดท้ายจบที่ข้าวมันไก่ 555 ขาเดินกลับโรงแรม เห็นคู่หญิงชาย ทานข้าวอยู่ริมทาง พร้อมจักรยานสองตอนจอดข้างๆ พอลบอก เข้าไปคุยดีมั้ยอะ เราบอกปล่อยเขากินข้าวไปเฮอะ เดินกลับมาถึงโรงแรมได้สักพัก มีคนโทรเข้ามือถือ ถามว่าใช้คุณแน็ตมั้ยคับ ที่ปั่นจักรยานทั้วประเทศไทย เราก็บอกใช่คะ พี่เขาก็บอก เขาปั่นจักรยานอยู่ที่น่าน เมื่อกี้เห็นเดินผ่าน เราก็ เง้อ ใช่ที่ทานข้าวอยู่ริมทางมั้ยคะ พี่เขาก็บอกว่าใช่ เราก็ถาม ใช่ที่มีจักรยานสองตอนจอดอยู่ข้างๆมั้ยอะ พี่เขาก็ว่าใช่ นี่เขาเร่งเมียเขาให้รีบทานเพื่อจะได้ปั่นตามมา แต่มาไม่ทันเดินหายไปแล้ว 555 จบที่เราก็นัดแนะกันทานอาหารกลางวันมื้อพรุ่งนี้

 

ใครอยากหาอาหารเช้า สไตล์ต่างชาติ แนะนำร้านนี้เลย Hot Bread ตรงข้ามร้าน เฮือนหอม (เอ๊ะ ลืมชื่อ ขายข้าวซอย ดังอยู่เจ้านี้) ร้าน Hot Bread อร่อยมาก ขนมปังใช้ได้เลย กาแฟก็อร่อย ทำการฝากท้องอาหารเช้าไว้กับร้านนี้เป็นเวลา 2 วัน 555

 

กลางวันนี้เราเลยได้รับเชิญไปทานอาหารกลางวันที่ เฮือนหอม อะไรนี้หละ ข้าวซอยเขาอร่อยดีนะ เข้าไปนั่งก็คิดกับพอล แล้วเราจะจำหน้าพี่เขาได้มั้ยอะ พอลบอก ก็ถ้าเอาจักรยานมาก็ชัดอะ ถ้าไม่เอามา ก็ตัวใครตัวมัน เหอเหอ ดีนะที่พี่เขาเอาคันสองตอนมา เลยจำกันได้ ต่อมาถึงได้รู้ว่า พี่ตู่ และพี่แจน ปั่นจักรยานไปทุกที่ ที่ไปได้ ปั่นจนคนทำเมืองรู้จักพวกเขาสองคนว่า เป็นคนประหลาดปั่นจักรยานตลอดเวลา 555 เอ้า..จริงๆนะ ไปทานข้าวเช้า เจ้าของร้านก็ทักว่า มีคนพาเที่ยวในเมืองยัง เราก็ว่า มีแล้วคะเจอพี่สองคนปั่นจักรยานเหมือนกัน เจ้าของร้านบอก อ๋อ ใช่คู่ที่ปั่นจักรยานสองตอนใช่มั้ย เราก็ว่า โอ้ว..งพี่ตู่กับพี่แจนนี่ดังนะเนียะ คนรู้จักด้วย ป่าวหรอก คือทั้งเมือง มีคนขี่จักรยานแบบนี้ก็แค่คู่นี้หละ คนเลยจำได้ 555

 

พี่ตู่กับพี่แจน เป็นไกด์เหมือนเราเลย แต่พี่เขาเน้นไปทางส่องนก ดูสัตว์ อุแม่เจ้า อยากไปดูสัดว์มั้ง พี่ตู่ถามอยากดูตัวอะไรหละ คิดในใจ เด็กกรุงอย่างเรา ตัวอะไรมาให้เห็น ก็ปลื้มทั้งนั้นหละค่า ไว้ๆว่างๆจะมารบกวนให้พาไปดูสัตว์ พอลบอก อย่างแน็ตจะไหวหรอ สัตว์มันไม่ได้มาให้เห็นง่ายๆนะ รอนานนะ ร้อนด้วยนะ เราก็บอก ไม่ลองไม่รู้ ต่อมาพี่ทั้งสองคนก็เล่าประสบการ์ณการส่องนกดูสัตว์ให้ฟัง ว่าเห็นหมดเลย เสือโคร่ง เสือดาว นกต่างๆ สัตว์สงวนต่างๆ กบ งูก็เห็น อืม….ลืมไปเลยว่าเข้าป่าแล้วก็ต้องเจอกบแน่ๆ อืม…เจอกบแน่ๆ เปอร์เซนต์เจองูก็สูง คู่เรานี่คนนึงกลัวกบ คนนึงกลัวงู แล้วมันจะไปรอดในป่ามั้ยเนียะ

 

ต่อมาพี่เขาก็เชิญให้เราไปบ้านเที่ยวบ้านเขา เขาว่าหลังเนียะถูกที่สุดในซอยหละ เราก็ว่าทำไม พี่เขาว่าเพราะเป็นบ้านผีสิง 555 แต่พี่เขาวิทยศาสตร์พอ ไม่งมงายกับเรื่องพวกนี้เลยได้บ้านมาในราคาถูก พอลบอก เห็นมั้ยอยากได้บ้านถูก ต้องหาบ้านผีสิง ถ้ามีผีมาก็คิดซะว่า มีเพื่อนอยู่ด้วยไง เออ…เข้าใจคิด จากภายนอกบ้านไม่แปลกใจถ้าคนว่าบ้านผีสิง 555 แต่ภายใน มันอบอุ่นมากเลยอะ พี่ตู่ว่า บ้านนี้เจ้าของเดิมสร้างเองทั้งหลัง เสาเลยไม่ตรง พอพี่เขามาซื้อก็เลยสืบสานต่อ สร้างเองทั้งหมดเลย ที่เห็นในบ้านทั้งหมดนั้น พี่แจน และพี่ตู่ ลงทุน ลงแรงช่วยกัน สร้างจนสวยอย่างนี้ ไม่แปลกใจทำไมมันถึงรู้สึกอบอุ่น คิดเองนะ ว่าน่าจะเพราะคนสร้างรักบ้าน สร้างไปก็ใส่ความรักให้บ้านไปด้วย บ้านถึงได้อบอุ่น อืม…น่าอิจฉายิ่งนัก สงสัยเราสองคนต้องช่วยกันสร้างบ้านซะแล้ว (ถ้าไม่จบที่เอาค้อนทุบหัวมันไปก่อนนะ 555)

 

หลังจากนั่งคุยกันมาชั่วโมงกว่า สรุปได้ว่าพี่แก อินดี้มาก ชอบมาก นานๆจะได้เจอคนแบบนี้ คนที่รักธรรมชาติ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่คิดว่าเพราะเราเป็นคน เราถึงดีกว่าสัตว์ทั้งหลาย นอกจากอินดี้แล้วยัง ออแกนิคด้วย เล่นปลูกข้าวกินเอง อุแม่เจ้า…. พี่เขาว่า อยากลองดู ปลูกข้าวกินเอง ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี แต่ใช่ระบบธรรมชาติเข้ามาช่วย ชาวนาใช้สารเคมีฆ่าวัชพืช หรือสัตว์อื่นๆที่มารบกวน พี่เขาใช้ระบบ ปลูกข้าวเป็นแถวโดยมีเชือกเป็นตัวนำ อะไรที่โตเกินแถวก็คือวัชพืช ถอนออก หรือเหยียบจมดินก็จบ สัตว์อื่นๆที่มาทำลายต้นข้าว แถนที่จะฉีดยาใส่ ก็มาดึงมันออกด้วยมือแทน พอรู้ว่าไอ้ตัวพวกนี้มันไหลมาตามน้ำ พี่เขาก็ติดตะแกรงท่อน้ำ เพื่อไม่ให้มันเข้ามา 555 สรุปนาแปลงนี้ เนื้อที่น้อยกว่านาอื่น แต่ได้ผลิตผลที่สูงแบบคนละเรื่องกับนาอื่น และไม่ต้องเสียเงินเยอะเหมือนนาอื่น

 

พี่สองคนนี้ให้เล่าทั้งวันก็ไม่จบ เอาเป็นว่าเราสองคนขอบคุณพี่ตู่และพี่แจนที่ให้ความรู้ เลี้ยงข้าวไปสองมื้อ พาเที่ยวเมือง และอื่นๆอีกมากมาย แต่ที่ขาดไม่ได้เลยคือ ขอบคุณมาก ที่โทรหาหนู ถ้าพี่ไม่โทรมา พวกหนูก็คงจะไม่ได้เจอะเจอ ไม่ได้มีโอกาสสร้างมิตรภาพที่มีค่าแบบนี้ขึ้นมา ขอบคุณจริงๆ

 

ท้ายนี้ขอแนะนำเวบไซค์ของพี่ทั้งสองคน ผลงานกานถ่ายรูปสัตว์ที่เห็นทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของพี่ตู่และพี่แจนเอง http://www.naturefocusthailand.com/

ไม่ได้ไปลอบของใครมา ข้าน้อยขอคารวะในฝีมือของท่านจริงๆ

Tags: , ,

No comments yet.

Add your response